21 มกราคม National Hug Day

หรือ วันกอดแห่งชาติ ริเริ่มขึ้นโดย Kevin Zaborney และได้รับการรับรองโดย United States Copyright Office ให้เป็นวันสำคัญของประเทศ แต่วันนี้ก็ยังไม่ใช่วันหยุดราชการ

เริ่มต้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 มีนาคม ค.ศ.1986 ในเมือง Caro รัฐมิชิแกน และหลังจากนั้นก็แพร่หลายไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก จุดมุ่งหมายของวันนี้ก็เพื่อให้ทุกคนได้แสดงความรู้สึกต่อกันมากขึ้น ในวันนี้คุณสามารถขอกอดใครก็ได้ที่คุณต้องการ
ถึงแม้ว่าวันกอดแห่งชาติและการรณรงค์โครงการ Free Hugs จะคล้ายคลึงกัน แต่ทั้งสองกิจกรรมนี้ไม่ได้มีความเกี่ยวเนื่องกัน โครงการ Free Hugs เกิดขึ้นในปี ค.ศ.2004 ซึ่งเป้าหมายก็คือการมอบกอดให้กับผู้คนแปลกหน้าตามท้องถนน ซึ่งงานนี้อาจจะมีจัดขึ้นได้หลายๆ ครั้งในหนึ่งปี ในขณะที่วันกอดแห่งชาติจะรณรงค์กันในวันนี้วันเดียวเท่านั้น

มีผลการศึกษาออกมาว่า การปฏิสัมพันธ์กันระหว่างมนุษย์ทำให้เกิดผลดีหลายๆ อย่างต่อสุขภาพ การกอดจะช่วยให้มีภูมิต้านทานที่ดีขึ้น ลดความเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจ และลดฮอร์โมนที่ทำให้เกิดความเครียดในผู้หญิง นอกจากนั้นยังพบอีกว่า คนที่กอดกันนานเกิน 20 วินาที จะทำให้มีระดับของ Oxytocin ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความผูกผันเพิ่มมากขึ้น (แต่น่าจะเกิดเฉพาะเวลากอดกับคนที่อยากกอดเท่านั้น) และสำหรับใครที่เป็นคู่รักกัน การกอดจะทำให้ระดับความสัมพันธ์แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

นอกจากนั้น จากการศึกษาของ American Psychosomatic Society บอกไว้ว่า การจับมือกับคนรักเป็นเวลา 10 นาทีหรือการกอด จะช่วยลดความเครียดและป้องกันการเจ็บป่วยที่เกิดจากความเครียด ผู้ใหญ่ที่ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์แบบนี้กับคนอื่นจะมีความดันเลือดและอัตราการเต้นของหัวใจสูงกว่า ส่วนการศึกษาอื่นๆ ก็พบว่า การกอดหรือสัมผัสเพื่อนฝูงไม่ให้ผลดีเท่ากับการสัมผัสคนรัก

แต่ในประเทศไทย  ตอนนี้ยังไม่มีวันกอดแห่งชาติ เพราะ ประเทศไทยมีขนบธรรมเนียมมาแต่โบราณ ว่าผู้หญิงต้องรักนวลสงวนตัว ไม่ปล่อยเนื้อปล่อยตัว 

cr.   http://www.everyday-readers.com